รีวิว ขุนแผน ฟ้าฟื้น

รีวิว ขุนแผน ฟ้าฟื้น
รีวิว ขุนแผน ฟ้าฟื้น

รีวิว หนังเรื่อง ขุนแผน ฟ้าฟื้น ความพยายามเปิดจักรวาลวรรณคดีไทย

ขุนแผน ฟ้าฟื้น อันเป็นผลงานการกำกับของก้องเกียรติ โขมศิริ เป็นความพยายามล่าสุดในการหยิบเอาตัวละครในวรรณคดีไทยเรื่องดังอย่าง “ขุนช้าง ขุนแผน” เอามาบอกเล่าใหม่ ปรับแต่งให้มีความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น

โครงเรื่องคร่าวๆของ “ขุนแผน ฟ้าฟื้น” เลือกเล่าช่วงเวลาที่แก้ว (มาริโอ้ เมาเร่อ) หนุ่มพเนจรที่ประกอบสัมมาชีพ เป็นพวกมิจฉาชีพลักเล็กขโมยน้อย โดยเขาและเพื่อนสนิทอย่างเพชรได้ออกรอนแรมไปเรื่อยจนกระทั่งเดินทางมาถึงเมืองอยุธยา เมืองหลวงแห่งความศิวิไลซ์ การเดินทางมายังเมืองนี้ทำให้ความทรงจำของแก้วเริ่มกลับคืนมาตั้งแต่ที่เขาได้พบกับ ช้าง (ฟิลลิปส์ ณัทธนพล ทินโรจน์) และ พิม (ยงวรี งามเกษม) เพื่อนเก่าสมัยเด็ก ที่ร้านเหล้าซึ่ง ช้างได้แสดงวงดนตรีสดที่นั่น

รีวิว ขุนแผน ฟ้าฟื้น

ไม่นานนักแก้วได้มีโอกาสพบกับ อาจารย์เดช (ศุภกร กิจสุวรรณ) จอมอาคมที่เห็นแววในตัวแก้ว และอยากจะถ่ายทอดวิชาให้กับเขา ในเวลาเดียวกันแก้วเองได้ตัดสินใจลงสมัครเป็นทหารอาสาเพื่อปกป้องอารักขาในงานฉลองพระนครที่จะมีแขกจากต่างเมืองเข้ามาเยือน ระหว่างที่ฝึกฝนทหารนั้นเอง ความสัมพันธ์ของแก้ว ช้าง และพิม ก็เดินทางมาสู่จุดพลิกผัน เมื่อครั้งเก่าก่อน แก้วกับพิมเหมือนเคยมีสัญญารักต่อกัน แต่หลังจากที่แก้วหายตัวไป พิมถูกหมั้นหมายกับช้างในเวลาต่อมา ถ่านไฟเก่ากำลังลุกโชน ท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังมีภัย

ลักษณะของขุนแผน ฟ้าฟื้น คือหนังแนว Postmodern ที่หยิบยืมเอาวรรณกรรมในอดีต นำมานำเสนอใหม่ภายใต้บริบทและวิธีการคิดแบบใหม่ๆ จะเห็นได้ว่าตัวละครในหนังเรื่องนี้ ล้วนแล้วแต่ดูมีความเป็นคนที่มีความคิดหัวสมัยใหม่ แต่บริบทและฉากหลังเกิดขึ้นในสมัยอยุธยา ทรงผม แฟชั่น หรือวิถีชีวิตของพวกเขา ล้วนแล้วแต่มีความเก๋ เปรี้ยว เป็นฮิปสเตอร์แตกต่างจากหนังไทยย้อนอดีตเรื่องอื่น

รีวิว ขุนแผน ฟ้าฟื้น

วัฒนธรรมร่วมสมัยที่ปรากฏอยู่ในหนังเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการหยิบสไตล์หนังมิวสิคัลเอามาใส่ไว้ในช่วงต้นเรื่อง (ฉากที่แก้วเดินทางมาถึงพระนคร ด้วยการร้องรำทำเพลงแบบแอนิเมชั่นดิสนีย์) ตัวละครอย่างช้างและพิม มีวงดนตรีที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น ระบบคมนาคมขนส่งในเมืองที่มีลักษณะคล้ายกับแท็กซี่และรถประจำทาง สิ่งเหล่านี้ทำให้คนดูเห็นความพยายามใส่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ผ่านการคิดมาเป็นอย่างดี

แต่น่าเสียดายที่ความร่วมสมัยในหนัง กับบทภาพยนตร์ที่ค่อนข้างสะเปะสะปะและไม่ค่อยคืบหน้าไปไหน ทำให้ “ขุนแผน ฟ้าฟื้น” วนเวียนอยู่แต่ความทรงจำของแก้วที่ขาดหายไป คำถามถึงการหายไปของพ่อแก้ว ซึ่งเมื่อเราพิจารณาจิกซอว์ต่างๆหลังจากชมภาพยนตร์ไปสักระยะ ก็บทสรุปของหนังก็แทบไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย อีกทั้งความสัมพันธ์แบบรักสามเส้าของตัวละครเอก ก็ไม่ได้หนักแน่นเข้มข้นจนผู้ชมต้องรู้สึกอยากจะเอาใจช่วยตัวละครไหน เพราะท้ายที่สุดแล้ว หนังก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะนำเสนอหนัง “ภาคนี้” ให้มีความเคร่งขรึมจริงจัง แต่มาในโทนหยอกล้อ ซึ่งอาจจะเป็นความ “ล้อเล่น” ที่มากเกินไปก็เป็นได้

รีวิว ขุนแผน ฟ้าฟื้น