รีวิวหนัง Nobody Sleeps In The Woods Tonight

Nobody Sleeps in the Woods Tonight คืนผวาป่าไร้เงา หนังสยองขวัญจากประเทศโปแลนด์บน Netflix เรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นติดอินเตอร์เน็ตถูกส่งมาเข้าค่ายบำบัดในป่าลึก ก่อนจะไปเจอกับเรื่องสยองขวัญที่ซ่อนอยู่ในที่แห่งนี้

Nobody Sleeps In The Woods Tonight

หนังสยองขวัญที่มาลงในเน็ตฟลิกซ์ต้อนรับเทศกาลฮาโลวีนอีกเรื่อง โดยคราวนี้เป็นแนวไล่เชือดกันตรงๆ แล้วก็เป็นหนังทุนต่ำแบบเกรดบีลงแผ่นสมัยก่อน ซึ่งในยุคนี้น่าจะแทบไม่เหลือสักเท่าไหร่แล้ว แต่เรื่องนี้ก็ยังจะทำออกมาอีก แล้วก็ไม่คิดจะยกระดับบทหรือเรื่องราวต่างๆ ให้มีความแปลกใหม่อะไรเลยสักนิดเดียว

ตัวเรื่องเริ่มต้นกันง่ายๆ กับกลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามาในป่าเพื่อตั้งแคมป์บำบัดอาการติดเน็ต ซึ่งก็ไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญอะไรเลย เหมือนแค่บทหาทางสร้างเรื่องให้มีวัยรุ่นมารวมตัวกันในป่าให้ได้เท่านั้น และที่นี่ก็ห่างไกลชุมชน ไม่มีสัญญาณมือถือ ห้ามพกมือถือมา (แต่ตามสูตรก็ต้องมีคนแอบเอามา) ก่อนที่สมาชิกในทีมจะหายไป แล้วพบว่าถูกฆ่าอย่างโหดร้ายจากชายอ้วนร่างใหญ่มีแผลพุพองทั่วตัว จากนั้นก็คือช่วงไล่ล่ากันไปในป่านี้แหละ โดยมีประเด็นเรื่องหาทางทางออกจากป่าไม่ได้เพราะหลงทาง เลยต้องพึ่งมือถือเครื่องเดียวที่คนในกลุ่มแอบเอามา แต่ตกอยู่ในบ้านของฆาตกรสุดโหด


ต้องบอกว่านี่เป็นหนังที่บทอ่อนยวบสิ้นคิดมากจนเหลือเชื่อเลยว่า Netflix ให้ทุนมาทำ เอาว่าขนาดหนังเกรดบีสมัยก่อนยังมีอะไรให้รู้สึกฉีก แปลกใหม่ มีความพยายามหาจุดขายของตัวเองอยู่บ้าง ซึ่งก็อาจจะหลุดไปเป็นหนังคัลท์เลยแบบ The Babysitter  ทั้งสองภาคก็ถือว่าเจ๋ง แต่เรื่องนี้เหมือนผู้กำกับกับซึ่งเขียนบทด้วยเหมือนพึ่งตื่นจากการดูหนังแนวไล่เชือดลงแผ่นสมัยก่อนแล้วมาทำเรื่องนี้ในแบบเดียวกัน แต่ห่วยกว่า สิ้นคิดกว่ากับบทที่ให้ฆาตกรมีที่มาเว่อร์แบบมั่วซั่ว เหมือนอยากจะวางไว้เป็นหนังภาคต่อทำได้เรื่อยๆ พวกเจสัน ก็เลยเอามันแบบนี้แหละ จะได้ฆ่าไม่ตาย แล้วก็เผื่อต่อยอดไปยังหนังแนวสัตว์ประหลาดไซไฟได้อีก

เมื่อที่มาตัวเรื่องมั่วซั่วแบบนี้แล้ว ตัวเรื่องที่เหลือก็เลยมีแค่การไล่เชือดแบบโหดๆ ซึ่งโอเคถ้ามองว่านี่เป็นหนังสยองขวัญเกรดบีที่เน้นดูฉากแหวะเลือดสาดแล้วก็คงพอได้ แต่ว่าฉากโหดที่ออกมาแต่ละครั้งมันกลับดูโง่ๆ ตลกๆ จากตัวละครที่เป็นเหยื่อแบบสิ้นคิด ทั้งๆ ที่ตัวเรื่องก็มีตัวละครหนุ่มอ้วนสายเกมคอยบอกอยู่แล้วว่าอย่าทำอย่างนั้นอย่างนี้เทียบกับหนังสยองขวัญ แต่ก็ยังจะให้ตัวละครไปตายแบบสิ้นคิด หลายครั้งถึงขนาดอีหยังวะกับการตัดสินใจไปตายแบบงี่เง่ามาก จนรู้สึกอึดอัดกับการเดินเรื่องให้ตัวละครไม่ฉลาดกันทุกคน แม้แต่นางเอกก็ยังออกแนวสิ้นคิดพอกัน เพียงแต่ว่าพอเป็นนางเอกก็เลยต้องมีฉากต่อสู้กับฆาตกรให้ดูดีกว่าเท่านั้น ซึ่งเรื่องช่วงหลังก็ตามสูตรว่านางเอกต้องพยายามหาทางแก้แค้นจัดการฆาตกรให้ คนดูก็อาจจะสะใจนิดๆ กับฉากเอาคืน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกลุ้นระทึกอะไรเลย เพราะที่จริงมีทางเอาคืนได้มากมายกว่าจะมาถึงจุดนี้ แต่บทกลับให้ตัวละครโง่แบบคิดไม่ได้เองแค่นั้น

ตัวเรื่องมีความพยายามจะใส่ตัวร้ายโหดๆ เพิ่มจากตัวหลักอีก โดยให้คนที่อยู่ในป่าแห่งนั้นมีเลศนัยน่าสงสัยว่าจะจิตวิปริตเหมือนกัน แม้ว่าจุดนี้อาจจะดูเหมือนช่วยให้เรื่องมีอะไรแปลกใหม่เพิ่ม แต่ว่ากลับทำออกมาเสียของ แถมยังไม่มีที่มาที่ไปแบบงงๆ ก่อนจะโดนตัดจบแบบงงๆ ในเวลาต่อมาทันทีที่เฉลย เชื่อเลยว่าคนดูต้องงงแน่นอนว่าผู้กำกับเรื่องคิดอะไรถึงใส่ช่วงนี้มาโดยไม่มีที่มาที่ไปกับปิดจบง่ายๆ แบบนี้ แถมยังไม่อธิบายด้วยว่าตัวละครที่ไปเจอกับพวกนี้รอดมาได้ยังไง ก่อนจะเอาไปฆ่าทิ้งในตอนก่อนจบให้งงเล่นเข้าไปอีก

นี่เป็นหนังแนวไล่เชือดที่บทตกยุคมากจนเหลือเชื่อ แถมเขียนให้ตัวละครโง่จนน่าอึดอัดตลอดเวลาที่ดู ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ไม่ลุ้นระทึก กะขายฉากโหดเพียงอย่างเดียว แต่ก็ทำออกมาทื่อๆ ไร้รสนิยมมาก มีความพยายามจะเป็นเจสันแบบใหม่ เพื่อทำต่อไปได้เรื่อยๆ แต่ดูแล้วคงยากเพราะหลายอย่างที่สร้างไว้ในเรื่องป่วยเกินจริงๆ