รีวิว หนังเรื่อง มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง ไม่ใช่อิจฉาแต่ว่ามันรักเธอ
มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง ว่าด้วยเรื่องราวของดื้อ (ชานน สันตินธรกุล) เด็กชายบ้านนอกซึ่งเป็นลูกชายของเคี้ยง (พลพล พลกองเส็ง) พ่อค้าร้านราดหน้าชื่อดังที่อยู่มาอย่างเก่าแก่ ทั้งสองอยู่ร่วมบ้านหลังเดียวกันกับน้าสาวอย่าง หลิน (เก้า สุภัสสรา ธนชาต) ด้วยความขี้หวงของดื้อที่เห็นว่าน้าสาวของตัวเองเป็นคนสวย เวลาชายหนุ่มคนไหนแวะเวียนมาขายขนมจีบ หน้าที่ของดื้อของต้องไปกันท่า จนสร้างเรื่องปวดหัวให้หลินอยู่เสมอ
เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นดื้อได้ตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปอยู่ที่กรุงเทพฯ เพื่ออยากจะพิสูจน์ให้พ่อของเขาเห็นว่า เขาอยากจะทำมาหากินด้วยลำแข้งของตัวเองมากกว่าจะขายราดหน้าอยู่ต่างจังหวัด กว่าหลายปีที่ดื้อไม่ได้กลับบ้าน หลินที่เรียนจบพยาบาลมาได้ย้ายเข้ามาทำงานในโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ ในสาขานักกายภาพบำบัด ซึ่งเธอกำลังปวดหัวกับแมน (โจ๊ก โซคูล) หนุ่มหน้าเห่ยที่กำลังไล่ตามจีบเธออย่างไม่ลดละ ยังไม่รวมไปถึงบรรดาชายคนอื่นๆที่เร่มาขายขนมจีบ และเป็นความบังเอิญอีกเช่นกันที่ดื้อได้เจอกับหลินอีกครั้งในรอบหลายปี ทำให้ดื้อเริ่มออกปฏิบัติการกันท่า น้าสาวของตัวเองอีกครั้ง
อันที่จริงเมื่อลองอ่านระหว่างบรรทัดในส่วนของเรื่องย่อแล้ว หนังเรื่องนี้คือการพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์เชิงชู้สาวระหว่างน้าและหลานอยู่ในที การที่ดื้อมีพฤติกรรมหวงก้างหลิน นั่นก็เพราะเขาหลงรักน้าของตัวเอง เพียงแต่ในกรอบของหลักศีลธรรม จรรยาแล้วมันดูเป็นเรื่องที่ผิดบาปและขัดต่อขนบธรรมเนียมของวิญญูชนคนทั่วไป
น่าเสียดายที่หนังตั้งโจทย์ของเรื่องออกมาท้าทายกับแนวคิดและวิถีชีวิตของผู้คนในสังคม แต่หนังก็ไม่ได้พาคนดูไปสำรวจถึงปมในจิตใจของตัวละครดื้อสักเท่าไหร่ หากแต่หนังมัวแต่สาละวนกับการขายมุกตลกสถานการณ์ที่ส่วนมากค่อนข้างฝืดเฝือและไม่ค่อยทำงานกับผู้ชมเท่าไหร่นัก (คนดูในโรงส่วนมากค่อนข้างเงียบกริบในหลายๆฉากที่หนังพยายามทำตัวตลกขบขัน) อีกทั้งการเล่นตลกกับเรื่องหน้าที่และวิชาชีพของพยาบาล (ฉากเจ๊แอน ซึ่งรับบทโดยรัศมีแข กำลังแก้สถานการณ์ที่แมนกำลังโดนเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าช็อต ก็ดูไม่ค่อยตลกสักเท่าไหร่ เมื่อมองในแง่การดูแลความปลอดภัยของผู้ป่วย) หรือฉากทานสลัด ที่ว่าด้วยเรื่องของ “ขน” ที่ดูแล้วน่าขนลุกชวนสะอิดสะเอียนและกลายเป็นภาพติดตาเสียเหลือเกิน
อย่างไรก็ตามท่ามกลางความ “ไม่ไปไหน” ของบทภาพยนตร์ สองนักแสดงนำอย่าง ชานน สันตินธรกุลและ เก้า สุภัสสรา ธนชาต ก็บริหารเสน่ห์ของตัวเองและใช้ทักษะทางการแสดง เอาตัวรอดไปได้อย่างหวุดหวิด