300 ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก หนังแอคชั่นมันส์ ๆ ที่ผสมผสานเทคนิคในหนังได้อย่างลงตัว

300 ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก  คือสุดยอดของ หนังแอคชั่น ที่ผสมผสานการใช้เทคนิคพิเศษ เข้ามาช่วยในการถ่ายทำ ได้อย่างลงตัว

300 ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก มีความแปลกใหม่ และมีประสิทธิภาพ จนกลายไปเป็นต้นแบบ ในการสร้างสรรค์ฉากแอคชั่นมันส์ ๆ ให้กับหนังแอคชั่นในอีกหลาย ๆ เรื่องต่อมา สำหรับ หนังสร้างจากเรื่องจริง เรื่องนี้ ที่มีการอ้างอิง และดัดแปลงมาจากหนังสือ ประกอบกับเรื่องราว สุดน่าเหลือเชื่อ ในสมรภูมิรบด้วยจำนวนคน ที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน ของเผ่าพันธุ์ ที่เกิดมาเพื่อเป็นนักรบอย่างแท้จริง

จึงส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่องนี้นั้น ได้กลายเป็นภาพยนตร์ ที่ได้รับความนิยม และเป็นที่พูดถึง เป็นอย่างมากในวงการภาพยนตร์ ช่วงยุคสองพัน โดยภาพยนตร์เรื่อง 300 นั้น มีการสร้างออกมา จำนวนสองภาคด้วยกัน คือ 300 ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก ในปี 2006 และ 300 มหาศึกกำเนิดอาณาจักร ภาคต่อในปี 2014

ซึ่งภาพยนตร์ที่เรา จะมาพูดถึงในวันนี้ จะเป็นการหยิบยก สุดยอดหนังแอคชั่น แห่งปี 2006 กลับมาย้อนความหลัง ถึงหนังที่แม้จะผ่านมา เป็นเวลากว่าสิบปีแล้ว

แต่ฉากแอคชั่นต่าง ๆ ก็ยังดูได้สนุกอยู่ไม่แพ้หนังยุคปัจจุบันเลย โดยเรื่องราวในภาคนี้นั้น จะเล่าถึงเหตุการณ์สงคราม ระหว่างชาวสปาตัน ที่นำทัพโดยกษัตร ลีโอไนดัส ซึ่งได้นำทหารจำนวนเพียงแค่ สามร้อยคน เข้าต่อสู้กับชาวเปอร์เซีย จำนวนนับแสน เมื่อประมาณ 480 ปีก่อนคริสตกาล 

300 ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก กำกับภาพยนตร์โดย แซ็ก สไนเดอร์ จาก หนังซอมบี้ เรื่องดังอย่าง Dawn of the Dead

ถือได้ว่าตัวของสไนเดอร์ ในช่วงเวลานั้นเอง เป็นผู้กำกับหน้าใหม่ ที่ผ่านงานกำกับ หนังฮอลลีวูด มาเพียงแค่เรื่องเดียวเท่านั้น แต่สามารถสร้างสรรค์ผลงาน ฉากแอคชั่นที่ดุเดือด และแปลกใหม่ ผ่านเทคนิคการถ่ายทำแบบใหม่ ๆ และสร้างสรรค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และตัวของเขาเอง ยังมีส่วนร่วมในการเขียนบท ภาพยนตร์เรื่องอีกเองอีกด้วย นอกจากนี้เนื้อหา และบทต่าง ๆ บางส่วนยังเป็น หนังดัดแปลงจากหนังสือ เรื่อง 300 ของนักเขียนการ์ตูนอย่าง แฟรงก์ มิลเลอร์ ผู้ที่วาดการ์ตูนเรื่อง SIN City หนึ่งในหนังสือการ์ตูนอีกเรื่อง

ที่ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ พร้อมด้วยเหล่ากองทัพนักแสดง ชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เจอราร์ด บัตเลอร์ นักแสดงจาก หนังผจญภัย เรื่อง Lara Croft Tomb Raider: The Cradle of Life ลีน่า เฮดดี้ นักแสดงจาก หนังแฟนตาซี เรื่อง The Brothers Grimm

เดวิด เวนแฮม นักแสดงจาก หนังออสการ์ อย่าง The Lord of the Rings: The Two Towers และโรดรีกู ซานโตรู นักแสดงจาก Charlie’s Angels: Full Throttle มาร่วมแสดง

เรื่องราวในภาพยนตร์จะเล่าถึง ประวัติ และวัฒนธรรมของเหล่าชายชาวสปาตัน ที่ต้องพบเจอทุกคน ตั้งแต่เกิด

รวมถึงตัวของ กษัตรลีโอไนดัสเองด้วย โดยหลังจากที่เขาถูกฝึก และผ่านบททดสอบต่าง ๆ จนได้ขึ้นมาเป็นกษัตรแล้ว กษัตรเซิร์กซีส แห่งเปอร์เซีย ที่กำลังมีความทะเยอทะยาน และต้องการที่จะแผ่ ขยายอาณาจักร ไปยังดินแดนต่าง ๆ รวมถึงกรีกด้วย ได้ทำการส่งทูต เข้ามาเจรจา

แต่การเจรจาครั้งนั้น ก็ไม่ได้เป็นผล เมื่อเหล่าทูตที่ส่งเข้ามา เพื่อเจรจาถูกชาวสปาตันสังหารจนหมด สงครามระหว่างชาวเปอร์เซีย และสปาตัน จึงได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง แต่เนื่องมาจากช่วงนั้น เป็นช่วงเวลาของเทศกาล Carneian

ซึ่งชาวเมืองสปาตัน ต่างเชื่อกันว่าเทศกาลนี้ เป็นเทศกาลที่มีไว้เพื่อบูชาเทพเจ้า และไม่ควรที่จะทำสงคราม เหล่าสภาจึงไม่เห็นด้วย กับกษัตรลีโอไนดัส ที่ต้องการกำลังทหาร เพื่อทำสงครามครั้งนี้ และตัดสินใจที่จะไม่ส่งทหารไปทำสงคราม

เมื่อสภาไม่เห็นด้วย ลีโอไนดัสเอง จึงได้ทำการคัดเลือกเหล่าทหาร ที่ดีที่สุดของเขา เพียงสามร้อยนาย เพื่อออกทัพต่อต้าน การรุกรานของชาวเปอร์เซียนับแสน กองทัพของลีโอไนดัส รวมกับเหล่านักรบกรีกบางส่วน

จึงได้เลือกที่จะทำสงคราม ที่บริเวรช่องแคบ Thermopylae จุดยุทธศาสตร์ที่จำนวนคน จะไม่ได้เป็นปัญหา จุดเริ่มต้นของตำนานจึงได้เกิดขึ้นที่นี้

300 ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก หนังมหาสงครามที่กวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า 456,068,181 ดอลลาร์สหรัฐ

จากทุนสร้างทั้งหมดโดยประมาณ 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่นับได้ว่าในแง่ของรายได้ ตัวหนังเองก็สามารถประสบความสำเร็จ ในด้านของรายได้ เป็นอย่างสูงเลยทีเดียว นอกจากนี้คะแนนวิจารณ์ของหนัง ยังออกมาในแง่ดีอีกด้วย

ตัวหนังได้รับเรทอาร์ ในการเข้าฉาย เพราะแน่นอนว่าเป็นเรื่องของความรุนแรง ที่ทำออกมาได้ทั้งดิบ และโหดเลยทีเดียว โดยจุดเด่น ๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้เลย ก็คือการใช้เทคนิคการถ่ายทำและ งานทางด้านสเปเชี่ยลเอฟเฟค ที่นำมาผสมผสานกับการถ่ายทำในฉากต่อสู้ รวมจนถึงฉากการต่อสู้ ที่ดีไซน์ฉากออกมาได้อย่างสวยงาม จนส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ สามารถคว้ารางวัลเอ็มทีวีมูวีอะวอดส์ ในสาขาฉากต่อสู้ยอดเยี่ยมได้เลย

หนังสนุก โปรดักชั่นเยี่ยม ให้ความรู้สึกถึงความ โหด ดิบ ุเถื่อน สะใจคอหนังแอคชั่นอย่างแน่นอน

อย่างที่ beboframe.com ได้กล่าวไปข้างต้นถึงจุดเด่น อย่างงานโปรดักชั่น และการดีไซน์ฉากต่าง ๆ ในภาพยนตร์ ที่ทำออกมาได้อย่างสวยงาม แต่ก็อาจจะมีบางคน ที่ไม่ได้ชื่นชอบสักเท่าไหร่ เพราะตัวภาพยนตร์เอง ก็ใช้การทำ CG แทบจะเกือบทั้งเรื่อง

รวมทั้งฉากต่าง ๆ มีการอ้างอิงมาจากภาพในหนังสือการ์ตูน ของ แฟรงก์ มิลเลอร์ ในหลาย ๆ ฉาก จึงทำให้ภาพที่ออกมามี มุมกล้องแบบแปลก ๆ คล้าย ๆ กับการ์ดูหนังสือการ์ตูน หรือคัทซีนในวิดีโอเกมส์อีก ทั้งเรื่องของบทภาพยนตร์ ที่มีการดัดแปลง และแตกต่างไปจากประวัติศาสตร์ไปบ้าง และมีเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้หลาย ๆ เรื่อง จึงทำให้รู้สึกได้เลยว่าหนังเรื่องนี้ มีความแตกต่างจากสงคราม ที่เคยเกิดขึ้นจึงในประวัติศาสตร์ค่อนข้างมาก

และสร้างมีเพื่อความบันเทิง มากกว่าการให้ได้รู้ถึงประวัติศาสตร์จริง ๆ  แต่อีกจุดเด่นหนึ่ง ที่หนังเรื่องนี้นำมาใช้ และส่งผลดีเป็นอย่างมาก อย่างเทคนิคการถ่ายทำภาพสโลโมชั่น สำหรับฉากแอคชั่นต่าง ๆ ที่เมื่อนำมาผสมกับช็อตดีไซน์สวย ๆ จึงทำให้วิธีการนี้กลายเป็นจุดเด่น และอีกหนึ่งจุดขาย ของภาพยนตร์เรื่องนี้เลยทีเดียว นอกจากนั้นวิธีการใช้เทคนิคสโลวโมชั่น ในฉากแอคชั่น ยังกลายไปเป็นอีกหนึ่งลายเซ็น

สำหรับการทำหนังของผู้กำกับคนนี้ ที่มีหนังหลาย ๆ เรื่อง ทำตามกันเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยจะเห็นได้อย่างชัดเจน ถึงเรื่องการใช้สเปเชี่ยลเอฟเฟคจำนวนมาก เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์ ที่เป็นการผสมผสานระหว่างการใช้ CG ร่วมกับการแสดงสดของนักแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม